สอนการเล่น TAB กีต้าร์ เพลงเพื่อชีวิต ในเพลง คิดถึงบ้าน ของ จรัญ มโนเพ็รช

หลังจากอดทนเล่นกีต้าร์มาตั้งนาน แต่ยังไม่เป็นเพลงซักเพลง นี่ครับเอาไปเล่นกัน อย่างน้อยมันก็เป็นก้าวแรกของการเล่นเพลงอื่นๆต่อๆไปครับ ขอให้เล่นให้สนุกครับ หากเครียดก็วางกีต้าร์ไปทำอย่างอื่นที่อยากทำครับแล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่ ขอให้สนุกครับ





เป็นไงบ้างกับการเล่นกีต้าร์นี่เป็นเพลงออกแนวเพื่อชีวิตครับเดี่ยวผมจะหาเพลงหลากหลายสไตล์มาให้หัดเล่นกัน ขอให้สนุกกับการเล่นกีต้าร์ครับ

การเล่นกีต้าร์โปร่ง แนว แจ๊ส ป๊อบ ร็อค

แจ๊ส เป็นอีกสไตล์ที่พัฒนามาจากบลูส์ซึ่งรายละเอียดในการเล่นจะยากขึ้นไปกว่าดนตรีบลูส์ และมีทั้งแบบอาคูสติกและิเล็คทริกเช่นกัน เช่น Larry Carlton เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสไตล์อื่นที่มีลักษณะของแจ๊สอยู่ พอจะยกตัวอย่าง ได้แก่

- Bossanova ซึ่งที่ดังมากได้แก่ Antonio Calos Jobim กับเพลง Girl from ipanema เป็นต้น

- Samba หรือ สไตล์ประจำของบราซิล ซึงมีโครงสร้างคล้ายกับดนตรีแจ๊สเช่นกัน

ป๊อปสไตล์ ก็คือสไตล์ที่เล่นกับเพลงป๊อปหรือเพลงทั่ว ๆ ไป

ร็อคสไตล์ มีการพัฒนามาจากบลูส์เช่นกันมีความหนักแน่นในจังหวะและท่วงทำนอง และมีการเล่นที่น่าสนใจทั้งการโซโล ที่มีลูกเล่นเทคนิคมากมาย การปรับแต่งเสียงของกีตาร์ การใช้เอฟเฟ็คต่าง ๆ จึงเป็นที่นิยมและคลั่งไคล้ของกลุ่มวัยรุ่น อยากเก่งเหมือนนักกีตาร์ร็อคดัง ๆ ซึ่งร็อคอาจแบ่งไดเป็น

- บลูส์ร็อค เป็นการผสมระหว่างเพลงบลูส์กับร็อคเช่นแบบ Gary Moore หรือ Stevie ray Vaughan เป็นต้น

- โฟล์คร็อค มีการผสมผสานกันของเพลงโฟล์คกับร็อค เช่น Eagles เป็นต้น

- นีโอคลาสสิก เป็นการนำเอารูปแบบของดนตรีคลาสสิกมาผสมผสานกับดนตรีร็อค ซึ่งตอนนี้เป็นที่สนใจอย่างมาก ผู้ที่บุกเบิกทางนี้ได้แก่ Randy Rhoad ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วแต่ปัจจุบันคุณจะรู้จัก นีโอคลาสสิก กับ Yngwie Malmsteen หรือ Vinnie Moore เป็นต้น

- เฮฟวี่เมทัล พัฒนาไปจากดนตรีร็อคมีความหนักหน่วงขึ้นเช่น Metallica , Megadeath เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีแนว Progressive rock เช่นแบบของ Dream thearter หรือแนว Alternative ที่มี Nirvana เป็นผู้สร้างชื่อเสียงเป็นต้น หรือแนวอื่น ๆ อีกเช่น แนว Funk , reggae หรือแนว death metal เป็นต้น

การเล่นกีต้าร์โปร่ง แนวบลูสไตล์

บลูส์สไตล์ กำเนิดจากชนผิวดำที่เป็นทาสได้รับเอาเครื่องดนตรีชนิดนี้มากและพัฒนาเข้ากับดนตรีแบบของเขา ซึ่งส่วนใหญ่ในยุคแรกจะเป็นเพลงที่เศร้าเนื่องจากบรรยายถึงความเหนื่อยยากที่เป็นทาส และดนตรีบลูส์นี้เองเป็นพื้นฐานที่สำคัญของดนตรีอีกหลายประเภทเหลือเกินตั้งแต่ แจ๊ส โฟล์ค รวมไปถึงร็อคอีกด้วย สามารถแบ่งคร่าว ๆ เป็น

- อาคูสติกบลูส์ คือใช้กีตาร์โปร่งเล่นนั่นเองซึ่งในยุคแรกก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ จะมีการผสมผสานระหว่างการใช้ปิค และนิ้วร่วมกันในการดีด นอกจากนี้อาจมีการใช้สไลด์เล่นอีกด้วย เช่นในชุด unplug ของ eric clapton

- อีเล็คทริกบลูส์ เป็นยุคหลังที่มีกีตาร์ไฟฟ้าแล้ว จึงมีการนำดนตรีบลูส์มาเล่นกับกีตาร์ไฟฟ้ามีการโซโลที่ไพเราะและหนักแน่น เช่นแบบ BB. King หรือ Robert cra

สไตล์การเล่นกีต้าร์ แนวโฟล์ค คันทรี

แนวโฟล์ค คันทรี เกิดจากการเผยแพร่การเล่นกีตาร์ไปสู่คนผิวดำที่เป็นทาส และพัฒนารูปแบบไปเรื่อย ๆ ในหมู่ชาวบ้านสามัญชนทั่วไป ซึ่งมักจะเป็นกสิกร หรือ ทำฟาร์ม และเล่นในยามพักผ่อนจากการทำงานเพลงจึงมีลักษณะที่เรียบง่ายสบาย ๆ จังหวะสนุกสนานเล่าถึงวิถีชีวิตชาวบ้านอาจจะแบ่งได้เป็น
- บลูกล๊าสสไตล์ เป็นดนตรีพื้นบ้านมักมีการเล่นร่วมกับ แบนโจ ไวโอลิน แมนโดลิน ใช้กีตาร์ตัวนึงเป็นริทึ่ม อีกตัวใช้โซโล จังหวะสนุกสนาน เป็นเพลงบรรเลง หรือมีคนร้องด้วย
- ปิ๊คกิ้งสไตล์ คือการเกาหรือเล่นกีตาร์ด้วยนิ้วนั่นเองอาจจะเล่นตัวเดียวหรือ 2 ตัวประสานกัน มีความละเอียดในการเล่นมากพอสมควรเล่นค่อนข้างยาก ต่างกับบลูกล๊าสที่มักใช้ปิคมากกว่าเช่น Simaon & Garfunkel เป็นต้น
- โฟล์คสไตล์ เป็นดนตรีพื้นบ้านที่มีการเล่นที่อาจจะเป็นการเกากีตาร์ การใช้ปิคดีด การเล่นประสานกันตั้งแต่ 2ตัวขึ้นไป มีการร้องประสานเสียงกันส่วนมากจะกล่าวถึงชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันทั่วไป เช่น peter paul & mary
จริงแล้วทั้ง หมดรวมเรียกว่าเป็นสไตล์โฟล์ค ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจในความแตกต่างกันมากนักเท่าที่ผมได้รู้มานั้น ส่วนใหญ่บลูกล๊าสจะเป็นเพลงบรรเลง และฟิงเกอร์สไตล์ด้วยเช่นกัน แต่บางครั้งก็มีการร้องประกอบด้วย



สไตล์รูปแบบต่าง ๆ ของการเล่นกีตาร์

แนวคลาสสิก ถือเป็นแนวที่เก่าแก่ที่สุดของกีตาร์มัเล่นในหมู่ชนชั้นสูง(หมายถึงสมัยก่อน)มีรูปแบบการเล่นที่สวยงาม ท่วงทำนองไพเราะมากสามารถเล่นได้ทั้งริทึ่ม การเล่นโซโล การเล่นประสานได้ในตัวเดียว เพลงคลาสสิกจะถูกแต่งขึ้นอย่างปราณีต ดังนั้นจึงค่อนข้างจะยากสำหรับผู้ที่คิดจะหัดเอง เนื่องจากต้องสามารถอ่านและเข้าใจโน็ตดนตรีเป็นอย่างดี รวมถึงการอ่านจังหวะและสัญลักษณ์ทางดนตรีต่าง ๆ และที่สำคัญราคาในการเรียนค่อนข้างสูง ทำให้คนทั่ว ๆ ไปอาจไม่สามารถจะไปเรียนได้ (ผมก็อยู่ในกลุ่มนั้น)

ยังมีอีกสไตล์ที่ผมขอกล่าวรวมอยู่ในสไตล์คลาสสิก คือ สไตล์ฟลาเมนโก้เพราะค่อนข้างใกล้เคียงกันต่างกันที่สไตล์การเล่น ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมที่มีกำเนิดจากในสเปนจะมีรูปแบบการเล่นสำเนียงเฉพาะตัวเช่นการดีดแบบ rasgueado (จะอธิบายในส่วนของการเล่นเทคนิคอีกที) ซึ่งค่อนข้างโดดเด่นมากสำหรับฟลาเมนโก้สไตล์ ซึ่งสไตล์นี้มีจังหวะค่อนข้างจะสนุกสนาน และใช้ประกอบกับการเต้นรำอย่างที่เราเคยเห็นใน TV เกี่ยวกับสเปน ตัวอย่างเช่น paco de lucia เป็นต้น

การจับคอร์ดกีตาร์

การจับคอร์ดกีตาร์ ใช้มือที่จะจับคอร์ด กำหลวม ๆ ที่คอกีตาร์ในท่าที่ถนัด ใช้นิ้วโป้งเป็นนิ้วประคอง สำหรับบางคน(โดยเฉพาะคนที่เล่นกีตาร์คลาสสิก) อาจจะจับคอกีตาร์โดยใช้นิ้วโป้งยันกับคอกีตาร์(เช่นในรูป)แทนที่จะกำรอบคอ ให้นิ้วทั้งสี่โก่งและตั้งฉากกับฟิงเกอร์บอร์ดมากที่สุด (อาจจะเข้าใจยากนิดนึงลองฝึกดู) เพื่อไม่ให้นิ้วไปโดนสายอื่นทำให้เสียงบอด

l-hand.gif (5474 bytes)l-hand1.gif (5255 bytes)l-hand2.gif (4809 bytes)pick.gif (3857 bytes)

ส่วนที่กดสายกีตาร์คือส่วนปลายนิ้วทั้งสี่ และกดลงบนสายที่ระหว่างเฟร็ตหรือกลางช่อง หรือค่อนไปทางเฟร็ตตัวล่าง โดยที่นิ้วโป้งจะช่วยประคอง และช่วยเพิ่มแรงกดเวลาจับคอร์ดทาบ

หลักการเล่นกีตาร์เบื้องต้น

การใช้งานมือซ้าย

lhand.gif (4017 bytes)

ในที่นี้จะหมายถึงผู้ที่ถนัดขวานะครับถ้าถนัดซ้ายก็จะตรงกันข้าม สำหรับหน้าที่หลักของมือซ้ายก็คือการจับคอร์ด การให้ระดับเสียงของโน๊ตดนตรี(ด้วยการกดนิ้วไปแต่ละเฟร็ต) ซึ่งเราจะใช้นิ้วทั้ง 5 เพื่อช่วยในการเล่นกีตาร์ เช่นการจับคอร์ด ลี๊ดเป็นต้น ...ถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยว่า เอ...ใช้นิ้วโป้งด้วยหรือ ใช้ยังไงล่ะ ...ก็ขอตอบว่าใช้ครับในบางกรณี โดยเฉพาะเพลงในแบบ ฟิงเกอร์ สไตล์(สไตล์นิ้วหรือเกานั่นแหล่ะครับ) หรือการจับคอร์ดบาร์(bar chord) หรือคอร์ดทาบ นิ้วโป้งมีประโยชน์มาก ซึ่งผมจะกล่าวรายละเอียดในขั้นต่อไป นอกจากใช้จับคอร์ด ใช้ลี๊ดแล้ว ยังรวมถึงการเล่นเทคนิคต่าง ๆ เช่นการดันสาย สไลด์ hammer on pull off หรือทำเสียงบอด(mute) เป็นต้น

การดูแลรักษามือซ้ายนั้นไม่ควรจะไว้เล็บให้ยาวเกินนิ้วออกมาเพราะจะเป็นอุปสรรคกับการกดนิ้วบนคอกีตาร์แน่นอน และยังจะทำให้เจ็บนิ้วอีกด้วย และพยายามอย่าไปกังวลกับหนังที่ปลายนิ้วที่มันจะแข็งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณเล่นกีตาร์บ่อย ๆ เดี่ยวมันก็ลอกไปเองครับ...

2.3 การใช้งานมือขวาrhand.gif (5246 bytes)

สำหรับมือขวาในการเล่นกีตาร์จะมีหน้าที่ทำให้เกิดเสียงไม่ว่าด้วยการดีดด้วยนิ้วหรือการเกา การดีดด้วยปิคล้วนแต่ควบคุมด้วยมือขวาทั้งนั้น โดยหน้าที่ของแต่ละนิ้วนั้นสรุปคร่าว ๆ ได้แก่ ถ้าจับปิคดีดจะจับด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้ง แต่ถ้าคุณเล่นเกาแล้ว นิ้วโป้งจะมีหน้าที่ควบคุมเสียงเบส(หมายถึง 3 เส้นบน)เป็นส่วนมาก และนิ้วชี้ กลาง และนิ้วนาง จะควบคุม 3 สาย ล่างเป็นหลัก ส่วนนิ้วก้อยนั้นถึงแม้ไม่มีส่วนในการดีด แต่บางคนก็มักใช้นิ้วก้อยยันกับตัวกีตาร์เวลาเกา นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในการเล่นกีตาร์ลี๊ดเช่นการใช้บังคับคันโยก การปรับปุ่ม tone หรือ volume เวลาลี๊ดกีตาร์ไฟฟ้า(เทคนิคดังกล่าวจะพูดในภายหลังนะครับ) นอกจากส่วนของนิ้วมือแล้ว สันมือก็ใช้ในการทำเสียงบอด(mute) ได้เช่นกันซึ่งจะได้กล่าวในเรื่องของการใช้เทคนิคมือขวาต่อไป

การดูแลโดยทั่วไปสำหรับมือขวานะครับคือไม่ควรไว้เล็บยาวจนเกินไปโดยเฉพาะ นิ้วชี้ ,กลาง และนิ้วนางเพราะจะทำให้ดีดสายกีตาร์หรือแม้แต่จับปิคได้ไม่สะดวก แต่อาจไว้เล็บพอประมาณเพื่อใช้เกากีตาร์

สำหรับผู้ที่ถนัดซ้ายนั้นการเล่นก็จะกลับกับคนถนัดขวาคือ มือซ้ายจะใช้ดีด แต่มือขวาจะมาจับคอร์ดแทน ซึ่งกีตาร์สำหรับคนถนัดซ้ายนั้นก็มีขายนะครับ แต่ถ้ามันหายากนักผมว่าก็ใช้กีตาร์ของแบบถนัดขวา(แต่พยายามอย่าเลือกแบบคอเว้า หรือมีปิคการ์ดด้านล่างนะครับ) แล้วก็ใส่สายใหม่โดยกลับสายจากสายบนสุด ไปใส่ล่างสุดแทนก็ได้ แต่ก็มีนะครับนักกีตาร์มีซ้ายที่ใช้กีตาร์แบบเล่นมือขวามากลับพลิกแล้วเล่นเลยไม่ต้องเปลี่ยนสงเปลี่ยนสายให้เสียเวลา ดังนั้นสาย 1 จะมาอยู่บน สาย 6 จะไปอยู่ล่าง เช่น นักกีตาร์โฟล์คหญิงที่ชื่อ Elizabeth Cotten แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าเค้าเล่นยังไงเคยฟังแต่เพลงเค้าเก่งจริง ๆ ครับและก็ยังมีอีกเป็นนักกีตาร์บลูส์แต่ผมลืมชื่อไปแล้ว ดังนั้นคนที่ถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรผมว่าเท่ซะอีก และนักกีตาร์มือซ้ายที่โด่งดังเช่น jimi hendrix สุดยอดคนหนึ่งของวงการกีตาร์และ kurt cobain แห่ง nirvana ผู้ล่วงลับ เป็นต้น

ที่มาหรือหลักการของเสียงกีตาร์

คงจะเคยเล่นดีดหนังยางกันมา บ้างนะครับ เพื่อน ๆ เคยสังเกตไหมครับเวลาเราดึงหนังยางให้ยืดออก แล้วถ้าเอามือไปดีดหนังยางจะสั่นและเกิดเสียง(แต่เบามาก) หรือแม้แต่เส้นด้ายหรือเชือกที่ถูกยึดปลายดึงจนตึงเมื่อถูกดีดก็จะสามารถ เกิดเสียงได้เช่นกัน ทั้งหมดนั้นอาศัยหลักการของการเปลี่ยนแปลงพลังงานตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นเอง คือเมื่อวัตถุเกิดการสั่นด้วยความถี่ค่าหนึ่ง ความถี่นั้นก็จะกลายเป็นคลื่นเสียงได้ ที่กล่าวมาเป็นหลักคร่าว ๆ แค่พอรู้ครับ

สำหรับกีตาร์ก็คือการนำสายลวดซึ่งมีขนาดแตกต่างกันมาขึงยึดหัวท้ายไว้ ด้วยความตึงต่าง ๆ กัน ซึ่งความตึง, ขนาดที่ต่างกัน รวมถึงความสั้น-ยาวของสายกีต้าร์นั่นเองจะมีผลต่อระดับเสียงที่เกิดขึ้นได้แก่

- สายที่ตึงกว่าจะให้เสียงที่มีระดับสูงกว่าสายที่หย่อนกว่า

- สายที่มีขนาดใหญ่กว่าจะให้เสียงที่มีระดับต่ำหรือทุ้มกว่าสายที่มีขนาดเล็กกว่า

- สายที่สั้นกว่าจะมีระดับเสียงที่สูงกว่าสายที่ยาวกว่า

ทั้ง 3 ข้อนั้นเป็นหลักเบื้องต้นในการทำงานของกีตาร์นั่นเอง ดังนั้นกีตาร์มีสาย 6 ขนาด จะให้ระดับเสียงต่างกัน 6 เสียง และมีเฟร็ตกีตาร์ตั้งแต่ประมาณ 20-24 อัน ซึ่งเป็นการจำกัดความสั้นยาวของสายกีตาร์ (เมื่อกดที่เฟร็ตสายจะถูกจำกัดความยาวเหลือจากเฟร็ตที่กด ไปถึง สะพานสาย เช่นเมื่อคุณกดช่อง 12 ของสายใดก็ได้ก็คือคุณได้ทำให้สายนั้นเหลือความยาวเพียงครึ่งเดียวเนื่อง จากระยะระหว่างนัทจนถึงเฟร็ต 12 และระยะจาก เฟร็ต 12 ถึง สะพานสายนั้นมีระยะเท่ากัน จากผลดังกล่าวเมื่อคุณกดช่อง 12จะทำให้ได้เสียงกีตาร์สูงขึ้น 1 เท่า ของสายที่ไม่ได้กดช่อง 12 หรือทางดนตรีเรียกว่า 1 octave) ก็จะได้ความแตกต่างของเสียงในแต่ละเส้นอีก 20 - 24 เสียง ดังนั้นบนคอกีตาร์จะมีเสียงทั้งหมด 120 - 144 เสียง ไม่รวมเสียง ฮาร์โมนิคหรือเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งก็เพียงพอที่จะใหเคุณสร้างสรรค์ดนตรีได้ไม่มีสิ้นสุด

สำหรับความตึงหย่อนนั้นอาจเห็นเป็นรูปธรรมได้เช่นการดันสาย การตั้งสายเปิดแบบต่าง ๆ รวมถึงการเล่นคันโยก ล้วนแต่อาศัยความตึงหรือหย่อนของสายกีตาร์เพื่อสร้างเสียงระดับต่าง ๆ

str-vb.gif (6854 bytes)

**** สรุป หลักการของกีตาร์คือการสั่นของสายที่ทำให้เกิดเสียง และความแตกต่างของเสียงอันเนื่องมาจากขนาด ความสั้นยาว และความตึงของสายนั่นเอง

หัดอ่าน Note & Tab Symbol เล่นตามเพลงด้วยกีต้าร์โปร่ง

การอ่านโน๊ตเล่นโดยกีต้าร์โปร่ง ครับ






เป็นไงครับเก็ตยัง การเล่นโน๊ตด้วยกีต้าร์โปร่ง

การเล่นกีต้าร์คอร์ดและสเกล CHORD SCALE เทคนิคการตีคอร์ด สอนโดย หมู คาไล

การฝึกพื้นฐานแต่สำคัญ ครับ ต้องผ่านแบบฝึกหัดนี้ก่อนเพื่อก้าวสู่นักเล่นกีต้าร์โปร่งมืออาชีพ






ตั้งใจครับ การเล่นกีต้าร์โปร่งเราต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านเสียงกีต้าร์ครับ...โหพูดซ่ะ...........ห้าๆ

การเล่นกีต้าร์คอร์ดและสเกล CHORD SCALE เทคนิคการตีคอร์ด สอนโดย หมู คาไล

การฝึกพื้นฐานแต่สำคัญ ครับ ต้องผ่านแบบฝึกหัดนี้ก่อนเพื่อก้าวสู่นักเล่นกีต้าร์โปร่งมืออาชีพ






ตั้งใจครับ การเล่นกีต้าร์โปร่งเราต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านเสียงกีต้าร์ครับ...โหพูดซ่ะ...........ห้าๆ

การบริหารนิ้ว และมือ สำหรับเด็กที่ชอบเล่นกีต้าร์

นิ้วและมือถือเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นกีต้าร์โปร่ง งั้นเรามาดูการบริหารนิ้วและมือของอ.แดงกัน




เป็นไงครับสบายนิ้วขึ้นมายัง ตอนผมหัดเล่นกีต้าร์โปร่งใหม่ๆ เจ็บปลายนิ้วมาก แต่ตอนนี้มันชินแล้ว สนุกครับ

ตัวอย่างการเล่นตีคอร์ดธรรมดาประกอบเพลง

ดูหนุ่มคนนี้เล่นกีต้าร์โปร่งประกอบการร้องครับ




เห็นยังครับว่าการเล่นกีต้าร์โปร่งไม่ยากเลย

เทคนิคการเล่นกีต้าร์โปร่ง Acoustic Guitar Technic

เทคนิคการเล่นกีต้าร์โปร่งแบบนี้เหมาะมากครับสำหรับเพลงซึ้งๆ





พยายามเข้าน่ะครับ การเล่นกีต้าร์โปร่งไม่ยากเกินความสามารถหรอกครับ ขอให้สนุกกับการเล่นกีต้าร์โปร่งน่ะครับ

กีต้าร์โฟล์ค Beginner Fingerstyle Country Guitar เทคนิคการวางมือและการดีด

อันนี้ค่อนข้างจะยากแต่โดยส่วนตัวผมว่ามันเป็นการเล่นกีต้าร์โปร่งที่ให้เสียงไพเราะมาก
แต่ก็ต้องอาศัยความชำนาญนิดนึง






เป็นไงบ้างครับอย่าพึ่งท้อล่ะ เทคนิคนี้หากวางมือถูกการเล่นก็ไม่ยากครับ ขอให้สนุกกับการเล่นกีต้าร์โปร่งน่ะครับ

กีต้าร์เทคนิค แนะนำการเล่น Barre Chord E Formation

กีต้าร์เทคนิค แนะนำการเล่น Barre Chord E Formation


เทคนิคนี้ก็ไม่ยากคับดูแล้วทำตาม ไม่นานก็สามารถเล่นประกอบการร้องโดยใช้กีต้าร์โปร่งได้แล้วคับ



เป็นไงคับเข้าใจง่ายมั้ย ที่ผมใช้วีดีโอแทนที่จะเป็นเขียนบรรยายยาวๆผมว่าไม่สู้เห็นภาพเลยจะดีกว่าใช่มั้ยคับ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเล่นกีต้าร์โปร่ง ไ้ด้ตามสบายเลยนุ่ะคับ

หลักการเล่นกีตาร์เบื้องต้น-กีต้าร์โปร่ง

การจับคอร์ดแบบ OPEN FORM ไม่ยากคับดูแล้วทำตามเลย



ที่มาหรือหลักการของเสียงกีตาร์-หัดเล่นกีต้าร์

กีต้าร์เกิดเสียงได้ไง เออตอนเป็นเด็กผมก็สงสัยเหมือนกันแต่ก็ไม่ถึงขั้นทดลอง สร้างทฤษฎีการสั่นของเสียง คำนวณหาความถี่
อัตราการสั่น โหผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น เอาแบบง่ายๆเลย คือกีต้าร์มีเสียงจากการสั่นของสายสำหรับกีต้าร์โปร่งจะต่างจากกีต้าร์ไฟฟ้า
ตรงที่เสียงจะดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายกีต้าร์อย่างเดียว แต่มันอยุ่ที่ตัวกีต้าร์ด้วย กีต้าร์โปร่งเวลาดีดจะได้เสียงที่ต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของกีตาร์ ซึ่งจะอธิบายในบทถัดไป เสียงที่ได้ของกีต้าร์โปร่งจะเกิดจากการสั่นของสาย หากตึงไปเสียงก็สูง หย่อนไปเสียงก็ต่ำ เพราะฉนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องปรับสายกีต้าร์ก่อนเล่น ก็เพื่อให้มันเกิดความตึงหย่อนพอดีตามระดับเสียงคับ.........................

ดูเทพเล่น ดูเพื่อเป็นกำลังใจ-กีต้าร์เทคนิค

มาดูเทพเล่นกีต้าร์กันคับ แหะๆดูแล้วรู้สึกอยากจับกีต้าร์ที่วางอยู่ข้างๆมาขย้ำซักหน่อยแต่มันคงจะไม่เป็นเพลงกะเขาหรอกห้าๆ เดี๋ยวกะลังฝึก จะเก่งกว่านี้อีก







สุดยอดพี่แกเล่นคล่องมาก ต่อไปทีเราแล้วนี่เอามาให้ดูเพื่อจะได้มีแรงใจ

ใครติดตามบ้าง